กรดอะมิโนอาร์จินีน (L-Arginine)ดีต่อสมองอย่างไร

แอล-อาร์จินีน จัดเป็นกรดอะมิโนชนิดจำเป็นหรือเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง อาร์จินีนเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อเด็กและทารก เราจะได้รับกรดอะมิโนนี้จากการทานอาหารจำพวก ปลา ไข่ เนื้อสัตว์ ถั่วต่างๆ เป็นต้น เมื่ออาร์จินีนเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะถูกเปลี่ยนไปเป็นไนตริกออกไซด์ (Nitric oxide) ซึ่งไนตริกออกไซด์สามารถเพิ่มการไหลเวียนของกระแสเลือด นอกจากนี้ กรดอะมิโนอาร์จินีนยังสามารถลดความเครียดได้อีกด้วย จากงานวิจัยในมนุษย์ได้รายงานว่าอาสาสมัครที่มีภาวะซึมเศร้า จะมีการดูดซึมกรดอาร์จินีนลดลง [1] จากงานวิจัยในหนูพบว่าเมื่อหนูที่ได้รับความเครียดแล้วได้รับกรดอะมิโนอาร์จินีน หนูกลุ่มนี้จะมีภาวะความเครียดลดลง โดยพบการลดลงของระดับฮอร์โมนความเครียดหรือคอร์ติซอล นอกจากนี้ยังมีผลเพิ่มระดับโปรตีน Brain-derived neurotrophic factor (BDNF) ซึ่งจัดว่าเป็นสารที่สามารถป้องกันภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย [2]   อีกงานวิจัยหนึ่งในหนู ซึ่งได้รับผลการทดลองว่า กรดอะมิโนอาร์จินีนมีผลลดความเครียด โดยมีกลไกในการยับยั้งการบาดเจ็บของสมองที่เป็นผลจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งอาจจะชะลอความแก่ของสมองได้ [3] นอกจากนี้กรดอาร์จินีนอาจชะลอภาวะความจำเสื่อมได้อีกด้วย  ยังมีรายงานอีกว่ากรดอะมิโนอาร์จินีนถูกใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์

 

[1] Ali-Sisto, T., Tolmunen, T., Viinamäki, H., Mäntyselkä, P., Valkonen-Korhonen, M., Koivumaa-Honkanen, H., Honkalampi, K., Ruusunen, A., Nandania, J., Velagapudi, V., &Lehto, S. M. (2018). Global arginine bioavailability ratio is decreased in patients with major depressive disorder. J Affect Disord, 229, 145-151. https://doi.org/10.1016/j.jad.2017.12.030

[2] Dong, D., Lei, T., Song, M., Ma, L., & Zhao, H. (2020). The antidepressant effects of l-arginine on chronic mild stress-induced depression by augmenting the expression of brain-derived neurotrophic factor in rats. Brain research bulletin, 158, 128-134. https://doi.org/10.1016/j.brainresbull.2020.02.014

[3] Pervin, M., Unno, K., Konishi, T., & Nakamura, Y. (2021). L-Arginine Exerts Excellent Anti-Stress Effects on Stress-Induced Shortened Lifespan, Cognitive Decline and Depression. Int J Mol Sci, 22(2). https://doi.org/10.3390/ijms22020508