ปฏิบัติตัวอย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง

1.ออกกำลังกาย เป็นประจำ ช่วยสลายความเครียด ช่วยลดความเครียด  ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็ง นอกจากนี้ความเครียดยังส่งผลให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ

ควรออกกำลังกายให้ได้วันละ30นาทีอย่างต่ำ สัปดาห์ละ5วัน  อาจเดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ วิ่งจ๊อกกิ้งตามกำลัง เริ่มจากน้อยๆก่อนได้ค่ะ แล้วค่อยเพิ่มขึ้นทีละนิดจนอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อร่างกายของแต่ละคนจริงๆ

2. สวดมนต์ ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน  ฝึกสติรู้ตัว รู้ทันความเครียด เมื่อมีความเครียดให้หาทางผ่อนคลาย โดยอาจประเมินความเครียดตัวเองว่าอยู่ระดับไหน สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นด้วยตนเองได้ไหม หรืออาจหาที่ปรึกษา คนที่เราไว้ใจ หรือปรึกษานักจิตวิทยา

3. ดูแลเรื่องอารมณ์ ให้จิตใจสบายสนุกสนานกับงาน สนุกสนานกับสิ่งที่ทำทุกๆวัน  ฝึกใจให้มีความเมตตามองกว้าง ใจกว้าง ไม่โกรธง่ายๆ ขุ่นมัวง่ายๆ โดยยึดหลักธรรมพรหมวิหาร4  สังคหวัตถุ4

แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้โกรธ บางครั้งจะมีสถานการณ์ที่ควรแสดงออกว่าเราโกรธ เพื่อให้รู้ว่าคนนั้นปฏิบัติต่อเราไม่เหมาะสม สามารถโกรธได้ ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการที่เราแสดงออกถึงความโกรธอย่างเหมาะสมจะทำให้เราเข้มแข็ง ไม่ใช่ยอมในเรื่องบางอย่างที่ไม่ควรยอม แล้วเก็บความรู้สึกที่ไม่ดีสะสมไปเรื่อยๆแล้วระเบิดขึ้นมาในวันนึง  ควรแสดงความโกรธอย่างพอเหมาะ และมีสติ จะทำให้เราไม่กลายเป็นคนเก็บกด ซึ่งนับเป็นข้อดี ถ้าใช้ให้ถูกกาลเทศะ ถ้าไม่ค่อยเข้าใจให้เข้าไปศึกษายูทูปคุณนิ้วกลม มีหนังสือที่คุณนิ้วกลมนำมาอ่าน  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแนวจิตวิทยา แต่เค้าพูดเข้าใจง่าย ย่อยหนังสือและรวมกับประสบการณ์ที่เค้ามี เยี่ยมค่ะ แนะนำให้ติดตามคุณนิ้วกลม เป็นแนวพัฒนาตัวเองด้วย

4.อาหารให้หลีกเลี่ยง ส่วนประกอบจากสัตว์ ทานได้ปริมาณน้อย เน้นผักผลไม้ห้าสี ธัญพืช   ผักผลไม้ให้ผ่านน้ำไหลทิ้งประมาณ30นาที แล้วนำไปแช่น้ำเกลือหลังจากนั้นนำมาล้างน้ำสะอาดอีกรอบก่อนปรุงหรือรับประทาน   หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นปิ้ง ย่าง ทอด เน้นอาหารต้ม ตุ๋น ผักที่สามารถทานสดจะได้สารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากกว่า   ไม่ทานอาหารค้างคืนโดยเฉพาะที่มีน้ำมันพืชเป็นส่วนประกอบ  หรือโปรตีนที่ค้างคืนก็อาจแปรสภาพเป็นสารพิษได้ถ้าโดนความร้อนอีกครั้ง  อาหารที่มีไขมันพืชเป็นส่วนประกอบก็เช่นกัน  ซึ่งอาหารส่วนใหญ่ล้วนมีโปรตีนและไขมัน เป็นองค์ประกอบด้วยกันทั้งนั้น  ดังนั้นแต่ละบ้านควรทำอาหารให้พอดีกับคนในบ้าน จะได้ไม่ต้องเก็บค้างคืนและต้องมาอุ่นให้ร้อนอีกครั้ง ซึ่งคุณค่าอาหารก็ไม่เหมือนเดิมทีแรกที่ทำ และถ้ากินอาหารค้างคืนบ่อยๆคือนำมาอุ่นให้ร้อนแล้วกินก็จริง คุณค่าอาหารสารอาหารลดลงไปและยังอาจมีสารพิษเกิดขึ้นจากการแปรสภาพของโปรตีนและไขมันในอาหาร   อาหารแปรรูปจะต้องมีกระบวนการซึ่งอาจมีสารปนเปื้อนได้ไม่มากก็น้อย และอาหารแปรรูป ต้องใช้สารกันเสีย แต่เป็นปริมาณที่เหมาะสม  แต่เราควรคำนึงถึงปริมาณและความถี่ในการรับประทานอาหารแปรรูปด้วย เพราะหากเรารับสารเคมีเข้าไปมากเกินความสามารถที่ร่างกายจะกำจัดได้หมด ก็จะเกิดการสะสมในเซลล์ต่างๆหรือระหว่างเซลล์ต่างๆ ซึ่งจะก่อโรค โดยเหนี่ยวนำให้เซลล์นั้นผิดปกติขึ้นมาได้ โรคมะเร็งจึงมักจะเป็นตอนอายุมากๆ  เพราะใช้เวลาในการสะสมสารแปลกปลอมเหล่านี้ ซึ่งอาจไม่ใช่จากอาหารอย่างเดียว อาจมากับน้ำดื่ม อากาศ ที่เราดื่มที่เราหายใจอยู่

5.หลีกเลี่ยงการทานอาหารอย่างเดิมซ้ำๆ ชนิดซ้ำๆ แต่ให้ทานให้หลากหลาย เช่นทานผักหลายชนิด 

 โดยสามารถไปศึกษาจากพันพรรณได้เป็นบ้านของคุณโจนจันได ในการสะสมเมล็ดพันธ์ุเพื่อให้เรามีผักหลากหลายชนิดไว้ทาน ไม่ใช่ผักเศรษฐกิจไม่กี่อย่าง เช่น กะหล่ำปลี คะน้า ผักบุ้ง กะเพรา

6.ยาอายุวัฒนะของคุณๆอยู่ในผักผลไม้ห้าสี ล้างให้ดี ปั่นทานรวมกันก็ได้ ถ้าให้ดีลองศึกษาวิธีการปั่นที่จะช่วยให้สารพฤกษเคมีออกมามากที่สุด  ซึ่งสารเหล่านี้ก็ล้วนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์ บำรุงและฟื้นฟูเซลล์ร่างกาย ซึ่งการแพทย์ทางเลือก ยังนำอาหารเหล่านี้มาเป็นยาในการรักษามะเร็งทางอ้อม เพราะถ้าเซลล์แข็งแรงแล้ว เซลล์ภูมิคุ้มกันก็แข็งแรงด้วย ก็จะมาทำหน้าที่จับกินเซลล์ที่ผิดปกติหรือเซลล์มะเร็งได้ทีละนิด ยกเว้นว่าถ้าเป็นระยะที่กระจายไปตามส่วนต่างๆแล้วและมีปริมาณเซลล์ที่ผิดปกติจำนวนมาก ซึ่งจะไปแย่งอาหารจากเซลล์ที่ปกติ  เซลล์ที่ปกตินั้นก็มีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ ตายลงเรื่อยๆ จึงทำให้เกิดการเสียชีวิตจากมะเร็งหรือเซลล์ที่ผิดปกติเติบโตจำนวนมากในบางอวัยวะที่สำคัญในการมีชีวิต เช่น ปอด หัวใจ ไต ตับ  เป็นต้น  ความเชื่อของผู้เขียนจึงเชื่อจริงๆว่ามะเร็งหายได้ ถ้ารู้ทันก่อนจะเป็นระยะสุดท้ายอย่างที่จินตนาการกัน  ธัญพืชและถั่วต่างๆ ก็มีสารต่างๆแร่ธาตุต่างๆที่บำรุงร่างกาย

6.อากาศบริสุทธิ์ ช่วยให้เซลล์ได้รับการฟื้นฟูและซ่อมแซมได้ดีเพราะได้รับออกซิเจนเต็มที่ ออกซิเจนมีบทบาทสำคัญในการฟอกเลือดให้เป็นเลือดที่ดีซึ่งมีสารอาหารจากระบบย่อยที่เราทานประกอบอยู่ด้วย  ซึ่งถ้ามีออกซิเจนเพียงพอก็จะช่วยในการสันดาปอาหารได้ดีได้สมบูรณ์ เซลล์ก็จะได้พลังงานจากการได้รับออกซิเจนแล้วนำไปใช้ในกระบวนการเผาผลาญสารอาหาร

7.ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ให้หลากหลาย ไม่ทานอาหารซ้ำแบบเดิมบ่อยๆ กินวนไปค่ะ  คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และทานในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอในความต้องการของร่างกาย

8.ไม่ทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมากและบ่อย เพื่อป้องกันการรับสารตกค้างสะสม  โดยเฉพาะอาหารแปรรูป

9.ดูแลระบบขับถ่ายของเสีย  ถ่ายทุกวัน ทานโยเกิร์ตทำเอง

10.ไม่กินเหล้าบ่อยและปริมาณมากเกิน  ไม่สูบบุหรี่

หลีกเลี่ยงการกินเชื้อราซึ่งผลิตอัลฟาทอกซินซึ่งอยู่ในถั่วลิสงบดที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งก่อมะเร็งตับ  หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ดิบ  ปลาน้ำจืดดิบ ปลาร้าดิบ ซึ่งอาจมีพยาธิใบไม้ ก่อมะเร็งตับ ในตับ

11.หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี เช่น สารกำจัดศัตรูพืชที่เป็นเคมี หันมาใช้สารกำจัดศัตรพืชทางชีวภาพ เน้นการทำสวนหรือไร่ในปริมาณน้อยแต่เน้นคุณภาพแทน

 สรุปคือ ไม่เครียด ไม่กินอาหารซ้ำเดิมแต่อย่างที่ชอบ ทานอาหารให้หลากหลายเน้นผักผลไม้ห้าสี ขับถ่ายอุจจาระทุกวัน สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังตามความเหมาะสมของร่างกาย สนุกกับงานที่ทำและชีวิตประจำวัน สุขภาพจิตและกายคู่กัน